ออฟฟิศซินโดรม ถือเป็นอาการเจ็บป่วย ที่นายจ้างต้องรับผิดชอบหรือไม่

  • 24 Jan 2025
  • 1497
หางาน,สมัครงาน,งาน,ออฟฟิศซินโดรม ถือเป็นอาการเจ็บป่วย ที่นายจ้างต้องรับผิดชอบหรือไม่

ออฟฟิศซินโดรม หรือโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก WMSD ปัญหาสุขภาพของคนทำงานที่พบมากเป็นอันดับต้น ๆ

 

แล้วโรคนี้ถือเป็นอาการเจ็บป่วยที่มาจากการทำงาน ที่นายจ้างต้องรับผิดโดยการจ่ายเงินทดแทนให้ลูกจ้าง ตามพ.ร.บ. เงินทดแทน พ.ศ. 2537 หรือไม่ ? มาหาคำตอบกันเลยค่ะ

 

พ.ร.บ. เงินทดแทนฯ นิยามคำว่า “เจ็บป่วย” หมายถึง การที่ลูกจ้างเจ็บป่วยหรือถึงแก่ความตาย ด้วยโรคที่เกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงานหรือเนื่องจากการทำงาน ซึ่งการจะทราบว่าโรคใดเป็นโรคที่เกิดจากการทำงาน ก็เป็นไปตามประกาศกระทรวงแรงงานเรื่อง กำหนดชนิดของโรคซึ่งเกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงานหรือเนื่องจากการทำงาน

 

และเมื่อพิจารณาตามประกาศดังกล่าวแล้ว โรคออฟฟิศซินโดรมไม่ถูกกำหนดว่าเป็นโรคอันเนื่องมาจากการทำงานค่ะ

 

ทั้งนี้ ออฟฟิศซินโดรมเป็นกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อหลัง (Musculotendinous strain) สาเหตุมักเกิดจากการทำงานก้มๆ เงยๆ ยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดแรงกดตรงกล้ามเนื้อสันหลังส่วนล่าง ซึ่งจะมีอาการเกร็งตัว ทำให้ปวดหลัง หรือโรครากประสาทถูกกด หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน (Herniated Intervertebral discs) มักพบในคนที่แบกของหนัก

 

ดังนั้น เมื่อพิจารณาตามอาการของโรคแล้ว ทนายฝ้ายมีความเห็นว่า โรคดังกล่าวอาจถือเป็นการเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงานได้ หากงานที่ลูกจ้างทำเป็นงานแบกหาม คนงานในคลังโกดัง ถ้าพิสูจน์ได้ว่าอาการนั้นมีสาเหตุมาจากการทำงาน ทั้งนี้ ตามข้อ 3 (2) 10) พ.ร.บ. เงินทดแทน พ.ศ. 2537 แพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าโรคดังกล่าว เกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงานหรือเนื่องจากการทำงานหรือไม่

 

ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ลูกจ้างเกิดสิทธิ์อย่างไร ?

นายจ้างจะต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนในกรณีเจ็บป่วย โดยจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงให้กับลูกจ้าง หรือค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน หรือค่าทดแทนกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานติดต่อกันเกิน 3 วัน ซึ่งการจ่ายเงินดังกล่าว จะจ่ายจากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมที่นายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อใช้เป็นเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้าง

 

อย่างไรก็ตาม แม้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม แล้วแพทย์วินิจฉัยสาเหตุว่าไม่ได้มาจากการทำงาน ลูกจ้างก็ยังสามารถใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลตามกฎหมายประกันสังคมได้นะคะ

 

ขอบคุณข้อมูล : ทนายฝ้าย ยิ่งพร อินทร์ศรีชื่น (วิทยากร และทนายความที่ปรึกษาด้านแรงงานและ PDPA) https://www.facebook.com/labourlawclinique/

 

HR Buddy มองว่า สุขภาพเป็นเรื่องที่ต้องดูแลสม่ำเสมอ ไม่ควรละเลยแล้วต้องมาคอยรักษา ซึ่งนอกจากจะเสียเวลาแล้ว สุดท้ายเราอาจไม่ได้สุขภาพที่ดีกลับมาเหมือนเดิมด้วยค่ะ

 

สำหรับนายจ้างควรให้ความสำคัญกับหน้าที่งานของลูกจ้าง ลักษณะงานต้องไม่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือร้ายแรงถึงชีวิตมากเกินไป หากตำแหน่งนั้นไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก อาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ,เพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ,เพิ่มจำนวนคนทำงานหรือลดเวลาในการทำงาน

 

ส่วนลูกจ้าง สำหรับบางคนก็ยอมอดทนทำงานเพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่หากได้รับผลกระทบจากการทำงานก็จะยิ่งส่งผลที่ร้ายแรงมากกว่านะคะ ดังนั้น หากลักษณะงานที่ทำมีความเสี่ยง อาจมีการพูดคุยกับหัวหน้าว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรได้บ้าง หากไม่สามารถปรับได้ การหางานใหม่ให้ได้ก่อน (แล้วค่อยลาออก) น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top